เติมพลังชีิวิต ด้วยประสบการณ์ที่แตกต่าง
อันนี้เป็นทริปต่อเนื่องจากทริปศรีลังกา เราและเพื่อนอีกคนบินจากเมืองโคลัมโบ ศรีลังกา ข้ามไป Maldives มัลดีฟส์ เพราะมาถึงศรีลังกาแล้วบินอีกนิดเดียวก็สามารถมาเยือนเกาะในฝันได้อย่างสบาย ค่าใช้จ่ายไม่แพงด้วย การเตรียมตัวค่อนข้างง่ายมากๆ รวมถึงการติดต่อที่พักและเรือ ferry ผ่าน whatsapp ที่เจ้าหน้าที่ติดต่อได้ง่ายและให้ข้อมูลอย่างดี แต่ตอบช้าจนถึงช้ามากๆ และก่อนเข้าเมืองอย่าลืมทำ visa on arrival ที่เหลือไม่มีอะไรต้องเตรียม ชิลมาก
วันที่ 1 : จากศรีลังกาถึงมัลดีฟส์
เราออกจากศรีลังกามาถึงที่นี่ช่วงบ่ายโมง (ดูเวลาบินและเวลาเดินเรือให้ดี ไม่อย่างนั้นต้องรอนาน หรือหมดรอบเรือ อันนี้ ตารางเดินเรือของ iCom) จองที่พักบนเกาะมาฟูชิ (Maafushi Island) นั่งเรือจากสนามบิน ประมาณ 45 นาทีถึงเกาะ ค่าเรือคนละ $25 ซึ่งก่อนเดินทางเราจองเรือ ferry ผ่านทาง whatsapp เจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่ต้องซื้อออนไลน์ก็ได้ มาจ่ายหน้างานได้ทั้งเงินสดหรือบัตรเครดิต ตอนแรกเราก็ไม่แน่ใจว่าจะโดนหลอกรึเปล่า แต่เมื่อไปถึงคือตามที่เค้าบอกไว้นั่นแหละ มีคนมารอรับตามที่บอกไว้แล้วจ่ายเงินหน้างานได้เลย (เราเลือกจ่ายเงินสด) อีกทั้งเค้าให้ใช้บัตรเครดิตได้ทั้งเกาะ ค่อนข้างใช้ง่ายจ่ายคล่องทีเดียว ทั้งนี้ ถือเงินสด (เป็นดอลล่าห์ ไว้หน่อยก็ดี) เมื่อมาถึงที่เกาะมาฟูชิแล้วจะมีรถจากโรงแรมมารับที่ท่าเรือเลย (แนะนำให้แจ้งไปทางโรงแรมก่อนเดินทาง) ส่วนทริปดำน้ำเมื่อมาถึงเกาะแล้วค่อยจองก็ได้ มีเวลาเหลือเยอะ เราเลือก iCom tour ที่อยู่ตรงท่าเรือเลย
เมื่อมาถึงที่พักแล้ว check-in เรียบร้อย พวกเราเดินออกจองทัวร์ดำน้ำที่เต็มวัน จะพาไปแหล่งโลมา (ถ้าเจอกลุ่มโลมาเรามีโอกาสได้ลงไปดำน้ำกับปลาโลมา) จุดดำน้ำกับฝูงฉลาม จุดดำน้ำเรือจม ไปจบท้ายด้วย Sand Bank เนินทรายกลางทะเล ทั้งหมดนี้ $65 รวมถ่ายรูปใต้ได้แบบอิ่มหนำ หากว่าต้องการภาพจากโดรน เราสามารถแจ้งเค้าได้ คนละ $15 จ่ายเงินตอนที่จะรับรูป
วันที่ 2 : ทัวร์ดำน้ำเต็มวัน
เช้าวันรุ่งขึ้น ทางทัวร์นัดตั้งแต่เช้า 7.45 น. ออกเรือตรงเวลาไปตามจุดต่างๆ ที่ได้แจ้งไว้ หลังจากจบวันแล้ว คือ ประทับใจมากถึงมากที่สุด ทั้งการดำน้ำ อากาศดี แดดแรงตลอดทั้งวัน ทะเลสวยสุด แถมได้รูปสวยจากช่างกล้อง กลับมาตอนเย็นคือ เพลียมาก ออกไปหาร้านอาหารใกล้ๆ ที่พักกิน ร้านอาหารมีหลายราคาโดยมากจะราคาสูง แต่ถ้าลองหาดีๆ จะมีร้านแบบ Local อยู่ ราคาไม่แพงมากถือว่าโอเคอยู่
ฟีลโชคดีทุกๆ วัน
วันที่ 3 : ตกปลากินเอง
วันนี้ไม่ได้วางแผนอะไรมาก เพราะทัวร์ที่จะไปเต็มแล้ว เราไปเดินดูๆ กิจกรรมทางน้ำต่างๆ ก็รู้สึกเฉยๆ จึงใช้เวลาช่วงบ่ายเป็นการเดินช้อปปิ้งเรื่อยเปื่อย และจองทัวร์ตกปลาช่วงค่ำและรวมอาหารเย็นแบบ งงๆ ไปด้วย กลายเป็นทัวร์ตกปลาที่สนุกมาก ได้ปลาตัวใหญ่มากกลับมากิน (ตัวสีแดงคือ ปลาเก๋าหางบ่วง หรือ Lyretail grouper ส่วนตัวอื่นๆ ไม่รู้จักเลย)
เมื่อมาถึงฝั่งแล้ว ทางเจ้าของร้านอาหารแจ้งว่าสามารถไปเดินเล่นก่อนได้เพราะว่าต้องใช้เวลาปรุงอย่างน้อย 30 นาที แล้วค่อยกลับมาที่ร้าน ตอนแรกเราไม่แน่ใจว่า ร้านอาหารที่เอาปลาเราไปปรุงจะจำได้ยังไงว่าปลาตัวไหนของใคร สุดท้ายแล้วเค้าจำได้จริงๆ แฮะ แต่เค้าจะไม่เสิร์ฟปลาทั้งหมด ขึ้นอยู่กับว่าเรากินได้มากขนาดไหน พ่อครัวเดินมาพูดว่าไม่อยากให้กลายเป็นกินทิ้งกินขว้าง แต่พวกเราแสดงให้เห็นถึงพลังของชาวเอเชียกินปลาตัวใหญ่ไปสองตัว ให้ชาวมัลดีฟส์ตะลึงไป คืนนี้เก็บของแพ็คกระเป๋าเตรียมกลับบ้าน
วันที่ 4 : กลับบ้าน
ตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมเดินทาง เพราะว่าเรือออกตั้งแต่ 8 โมงเช้า มาถึงสนามบินยังไม่ 9 โมงเช้าเลย แต่ก็เพื่อความสบายใจถึงสนามบินก่อนเวลา ไปเดินดูรอบๆ และหาของกินก่อนเพราะว่าเราจะบินยาวๆ จากมัลดีฟส์ถึงไทยใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง
สรุป
ทริปมัลดีฟส์ที่คาดหวังแค่ทะเลสวย แต่เกินคาดไปมากกับการดำน้ำและบรรยากาศโดยรอบ รวมไปถึงความโชคดีที่ไม่มีฝน ไม่มีพายุเลย จึงได้เที่ยวแบบไม่เบียด ไม่แย่งกินแย่งใช้ ในราคาที่ถูกสุด หากใครมีเวลา 4 วัน 3 คืน อยากเที่ยวทะเลในช่วง low season แนะนำมัลดีฟส์ มีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น (ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน) 9xxx บาท สร้างภาพจำที่ดีมากๆในราคาที่ถูกมากเช่นกัน
ขอขอบคุณ
ขอบคุณความโชคดีที่อากาศเป็นใจ ไม่มีฝน ไม่มีพายุ
ขอบคุณเพื่อนร่วมทริปที่ไม่บ่นแม้จะต้องตามถ่ายรูปกลางแดดร้อนๆ
ขอบคุณที่กล้าบ้าบิ่นไปพร้อมๆ กัน
ขอบคุณคนรอบข้าง ที่ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็พบเจอแต่คนดีๆ ทั้งร้านอาหาร ร้านช้อปปิ้งต่างๆ ที่แถมของให้เราเยอะมากๆ
บันทึกการเดินทาง 11/08/2024
ปิ๊กมี่ หลงไปไหน
Comments